ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน)
สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้ดูแลผลประโยชน์
ผู้ดูแลผลประโยชน์มีหน้าที่ และความรับผิดชอบหลักๆ ดังต่อไปนี้
- ได้รับค่าตอบแทนจากการทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ตามอัตราที่กำหนดไว้ในสัญญา แต่งตั้งผู้ดูแลผลประโยชน์
- ตรวจสอบและถ่วงดุลการบริหารจัดการกองทุนรวมฯ ของบริษัทจัดการอย่างเคร่งครัดด้วยความ ซื่อสัตย์ สุจริต โดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพเพื่อประโยชน์สูงสุดของ กองทุนและผู้ถือหน่วยลงทุนโดยรวม ตลอดจนระมัดระวังดูแลรักษาทรัพย์สินดังเช่นผู้ประกอบ วิชาชีพดูแลผลประโยชน์ของกองทุนรวมฯ
- ลงนามในข้อผูกพันระหว่างผู้ถือหน่วยลงทุนกับบริษัทจัดการกับบริษัทจัดการในนามผู้ถือหน่วยลงทุน
- ลงนามในเอกสารที่รับรองการได้รับเงินค่าจองซื้อหน่วยลงทุนซึ่งได้ฝากไว้ในบัญชีเพื่อการจองซื้อหน่วยลงทุน และลงนามในเอกสารที่รับรองว่าเงินค่าจองซื้อ หน่วยลงทุนได้ฝากเข้าในบัญชีดังกล่าวแล้ว เพื่อยื่นเอกสารดังกล่าวให้แก่สำนักงาน ก.ล.ต. และให้การสนับสนุนการจัดตั้งและการจดทะเบียนจัดตั้งกองทุนรวมฯ กับสำนักงาน ก.ล.ต.
- กำกับดูแล ตรวจสอบ และถ่วงดุลให้บริษัทจัดการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหลักทรัพย์และโครงการจัดการกองทุนรวมฯ ตลอดจนข้อผูกพันระหว่างผู้ถือหน่วยลงทุนกับบริษัทจัดการโดยเคร่งครัด
- รับฝากทรัพย์สินของกองทุนรวมฯ โดยแยกไว้ต่างหากจากทรัพย์สินของผู้ดูแลผลประโยชน์หรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นซึ่งผู้ดูแลผลประโยชน์เป็นผู้รับฝากไว้
- ควบคุม และติดตามดูแลให้การเบิกจ่าย การจ่าย และการส่งมอบเงิน เอกสาร หรือทรัพย์สินอื่น ใดของกองทุนรวมฯ เป็นไปตามที่ระบุไว้ในโครงการจัดการกองทุนรวมฯ รวมถึงสัญญาการเข้า ลงทุนในรายได้ค่าความพร้อมจ่าย
- จัดทำบัญชีแสดงการรับจ่ายทรัพย์สินของกองทุนรวมฯ
- ดำเนินการฟ้องร้องบังคับคดีให้บริษัทจัดการปฏิบัติตามหน้าที่ของตนหรือฟ้องร้องเรียก ค่าชดเชยความเสียหายจากบริษัทจัดการ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนทั้ง ปวง หรือ เมื่อได้รับคำสั่งจากสำนักงาน ก.ล.ต. โดยค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้องบังคับคดีดังกล่าว ให้เรียกร้อง จากทรัพย์สินของกองทุนรวมฯ ได้
- ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพและ ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของกองทุนรวมฯ และผู้ถือหน่วยลงทุน
- พิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานของกองทุน รวมฯ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาทแต่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของมูลค่าทรัพย์สินรวมของ กองทุนรวมฯ ณ เวลาที่มีการได้มาหรือจำหน่ายไปดังกล่าว โดยให้เป็นไปตามโครงการจัดการ กองทุนรวมฯ และกฎหมายหลักทรัพย์ ทังนี้โดยคำนึงถึงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญอิสระ (ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยค่าใช้จ่ายของกองทุนรวมฯ) (ถ้ามี)
- พิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติการเข้าทำสัญญาหรือแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกสัญญาที่เกี่ยวกับ การบริหารจัดการหรือการจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานซึ่งมีมูลค่าของ สัญญามากกว่า 100 ล้านบาทแต่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทุนรวมฯ ณ เวลาที่มีการเข้าทำสัญญาหรือแก้ไขเพิ่มเติมหรือบอกเลิกสัญญาดังกล่าว โดยให้เป็นไปตาม โครงการจัดการกองทุนรวมฯ และกฎหมายหลักทรัพย์ ทังนี้โดยคำนึงถึงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญอิสระ (ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยค่าใช้จ่ายของกองทุนรวมฯ)
- แจ้งให้บริษัทจัดการจัดให้มีการประเมินค่าใหม่โดยพลัน เมื่อผู้ดูแลผลประโยชน์เห็นว่ามี เหตุการณ์หรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น อันอาจมีผลกระทบต่อมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน รวมฯ อย่างมีนัยสำคัญ หรือเมื่อเห็นว่าจำเป็นต้องประเมินค่าใหม่เพื่อกองทุนรวมฯ
- ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องได้รับความเห็นจากผู้ดูแลผลประโยชน์ ซึ่งรวมถึงเรื่องที่ต้อง ได้รับมติจากผู้ถือหน่วยลงทุนด้วย
- ดำเนินการให้มีการรับหรือชำระเงินจากบัญชีของกองทุนรวมฯ ทั้งนี้ โดยต้องเป็นไปตามโครงการจัดการกองทุนรวมฯ และ/หรือ ข้อกำหนดของเอกสารธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง (ตามแต่กรณี)
- ไม่กระทำการอันเป็นการขัดกับประโยชน์ของกองทุนรวมฯ หรือผู้ถือหน่วยลงทุน ไม่ว่าการกระทำนั้น จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้ดูแลผลประโยชน์เองหรือประโยชน์ของผู้อื่น เว้นแต่เป็น การเรียกค่าตอบแทนในการทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์หรือเป็นการดำเนินการในลักษณะ ที่เป็นธรรมและได้เปิดเผยข้อมูลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบก่อนอย่างพอเพียงแล้ว โดยผู้ถือหน่วยลงทุนที่ได้ทราบข้อมูลดังกล่าวมิได้แสดงการคัดค้าน
- ในกรณีที่การดำเนินการใดต้องได้รับมติของผู้ถือหน่วยลงทุน หากบริษัทจัดการไม่ดำเนินการขอมติ ให้ผู้ดูแลผลประโยชน์มีอำนาจดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อขอมติของผู้ถือหน่วยลงทุนได้
- มีสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบอื่นตามที่กำหนดในโครงการจัดการกองทุนรวมฯ และ
- ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายหลักทรัพย์ และสัญญาแต่งตั้ง ผู้ดูแลผลประโยชน์