ภาพรวมกองทุนรวมฯ
กองทุนรวมฯ จะเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานกองแรกที่เข้าลงทุนในรายได้ค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าที่รัฐวิสาหกิจเป็น
เจ้าของและเป็นผู้บริหารจัดการทรัพย์สิน และมีการจำหน่ายหน่วยลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนเป็นการทั่วไปซึ่งเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ถือ
หน่วยลงทุนสามารถลงทุนในรายได้ค่าความพร้อมจ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการบริหารดำเนินงานโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 ตามสัญญาการเข้าลงทุนในรายได้ค่าความพร้อมจ่าย
โดย กฟผ. จะยังคงความเป็นเจ้าของและเป็นผู้บริหารโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ในสัญญาข้างต้น โดย กฟผ. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้นตามพ.ร.บ. กฟผ. จะเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ของกองทุนรวมฯ โดยจะถือหน่วยลงทุนจำนวนร้อยละ 25 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด ณ เวลาที่มีการเสนอขายครั้งแรกเสร็จสิ้น และจะถือหน่วยลงทุนจำนวนดังกล่าวไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับจากวันที่กองทุนรวมฯ เข้าลงทุนสำเร็จ ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะบริหารจัดการกองทุนรวมฯ โดยมีหน้าที่หลักในการติดตามและตรวจสอบ กฟผ. ในการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 เพื่อสร้างรายได้ค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 ให้มั่นคงและมีความผันผวนต่ำในระยะยาว เพื่อให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนในอัตราที่มั่นคงอย่างสม่ำเสมอ
กฟผ. เป็นรัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน โดย กฟผ. มีการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่ กฟผ. เป็นเจ้าของและเดินเครื่องเอง ซึ่งตั้งอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558 กฟผ. มีโรงไฟฟ้ารวมทั้งสิ้นจำนวน 41 แห่ง ซึ่งมีกำลังผลิตรวมทั้งสิ้น 15,482 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าหลายประเภท เช่น โรงไฟฟ้าพลังความร้อน 3 แห่ง โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 6 แห่งซึ่งรวมถึง โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 เป็นต้น
วัตถุประสงค์ของกองทุนรวมฯ
คือ การลงทุนในทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐาน โดยนโยบายการลงทุนของกองทุนรวมฯ ในเบื้องต้นคือ
รายได้ค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 ที่กองทุนรวมฯ จะเข้าลงทุนจาก กฟผ.
ภายใต้สัญญาการเข้าลงทุนในรายได้ค่าความพร้อมจ่าย โดยกองทุนรวมฯ จะเข้าลงทุนเป็นระยะเวลาประมาณ 20 ปี
และในระหว่างการเข้าลงทุนดังกล่าวนั้น กฟผ. จะเป็นผู้บริหารโรงไฟฟ้านี้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องและสัญญาการเข้าลงทุนในรายได้ค่าความพร้อมจ่ายการระดมทุนผ่านกองทุนรวมฯ ของ กฟผ. ไม่เข้าลักษณะการประกอบกิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/2 แห่งประมวลรัษฎากร ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 10 มีนาคม 2558